เมื่อต้องการสร้างระบบบันเทิงที่สมบูรณ์แบบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ 5 ขั้นตอนดังนี้: 1. ใช้หัวเสียบไฟที่มีการป้องกันความน่าพึงพอใจและจุดเชื่อมต่อ USB แทนที่จะทำให้รายการของคุณอับอายด้วยหัวเสียบไฟหลายชิ้น เส้นไฟ และแอดแทร็กเตอร์ อาจใช้หัวเสียบไฟทั้งป้องกันความน่าพึงพอใจและUSB จุดเชื่อมต่อได้ ซึ่งจะไม่เพียงแต่กันข้อผิดพลาดของสายไฟเท่านั้น แต่ยังปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากกระแสไฟฟ้าสูงและสูงส่งมีเสถียรภาพด้วย เคล็ดลับในการใช้งาน: หาความสามารถของหัวเสียบไฟ 6-8 ช่อง มีการป้องกันความน่าพึงพอใจ (เช่น 2000 จูล) และจุดเชื่อมต่อ USB อย่างน้อย 4-6 จุด (เช่น USB-A, USB-C) นี่จะทำให้คุณสามารถต่ออุปกรณ์ของคุณได้ รวมถึงทีวี คู่มือเสียง เครื่องเล่นเกมเครื่องบิน และโทรศัพท์มือถือ ในขณะที่พวกเขากำลังยังคงอยู่ในสถานการณ์ด้วย 2. ใช้สาย HDMI อันเดียวสำหรับอุปกรณ์ของคุณ เพื่อลดความเร่งด่วนและแน่ใจว่าคุณภาพภาพที่ดีที่สุด ใช้สาย HDMI อันเดียว ที่สามารถถึงจากศูนย์เล่นเกมของคุณไปยังอุปกรณ์ของคุณ (เช่น ทีวี คู่มือเสียง เครื่องเกม) นี่จะช่วยให้คุณไม่ต้องต่อสายหลายสายในห้องและลดความเสี่ยงของการขยายสัญญาณ เคล็ดลับในการใช้งาน: เลือกสาย HDMI ด้วยอัตราส่วนข้อมูลสูง (เช่น 4K@60Hz…

1. ให้ขั้นตอนการปรับปรุงแบตเตอรี่ของคุณด้วย Power Bank และ Wireless Charging แบตเตอรี่หมดอายุอาจเป็นปัญหาที่ร้ายแรง แต่คุณสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ง่ายๆ ด้วย power bank หรือ wireless charging pad – Power Bank: นำไปลงทุนใน power bank ที่มีความจุสูงซึ่งสามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณได้หลายครั้งโดยไม่ต้องหาวิธีแก้ปัญหา ค้นหาคลื่นแบบมีหลายยูเอสบีด้วย – Wireless Charging Pad: แทนที่การชาร์จแบบสายด้วย wireless charging pad ที่จะชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณโดยไม่ต้องใช้สาย 2. ปรับปรุงประสบการณ์เสียงของคุณ: Wireless Earbuds และ High-Quality Headphones คุณภาพของเสียงที่ดีนั้นสามารถเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานโทรศัพท์มือถือนี้ได้ แต่คุณไม่ต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อรับสิ่งนี้ – Wireless Earbuds: นำไปลงทุนใน Wireless Earbuds ที่มีคุณภาพของเสียงที่ดี มีความจุแบตเตอรี่ยาวนาน และการควบคุมที่สะดวกสบาย Popular options ได้แก่ Apple…

1. ใช้การออกแบบแบบโมดูลาร์ เพื่อทำให้สเปซของคุณมีขนาดใหญ่ขึ้นและง่ายต่อการปรับปรุงหรือเปลี่ยนองค์ประกอบ ให้ใช้การออกแบบแบบโมดูลาร์เพื่อสร้างศูนย์ความบันเทิงของตัวคุณเอง การออกแบบแบบโมดูลาร์นี้หมายถึงการใช้หน่วยที่แยกกันสำหรับองค์ประกอบแต่ละอย่าง เช่น: – หน่วยแยกสำหรับテレビ – โซนเสียงหรือระบบโฮมเธียเตอร์ – ระบบเกม หรือผู้ใช้ข้อมูล – หน่วยเก็บสินค้าสำหรับแผ่นดิสก์ เกม และอุปกรณ์ วิธีนี้ทำให้คุณสามารถย้ายองค์ประกอบแต่ละอย่างได้ง่ายหรือนำออกทิ้งหากคุณต้องการ 2. เลือกการกระจายกระแสไฟฟ้า การกระจายกระแสไฟฟ้าที่เหมาะสมมีความจำเป็นสำหรับศูนย์ความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพสูง พิจารณาเรื่องราวดังต่อไปนี้: – ใช้พื้นที่กระจายกระแสไฟหรือป้องกันการเกิดกระแสไฟฟ้าแรงมาก (surge protector) เพื่อปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากความเครียดของกระแสไฟฟ้า – ติดตั้งวงจร GFCI (Ground Fault Circuit Interrupter) ในพื้นที่ศูนย์ความบันเทิงเพื่อกำจัดความเสียหายทางไฟฟ้า – พิจารณาใช้หน่วยควบคุมกระแสไฟฟ้า (PDU) ที่มีวงจรปิดสำหรับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย 3. รวมการบริหารจัดการสาย เพื่อทำให้ศูนย์ความบันเทิงของคุณดูสมบูรณ์และเป็นระเบียบ คุณสามารถรวมเทคนิคการจัดการสายได้ – ใช้ลวดห่วงสาย (cable ties) หรือลวดปรับแต่งสาย (zip ties) เพื่อให้สายอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม – ติดตั้งผนึกสายใต้ผนังหรือหลังแท่นโทรทัศน์ – พิจารณาใช้พัดชาร์จไร้สายสำหรับอุปกรณ์เช่น…

ระบบชาร์จไร้สายสามารถเป็นวิธีการที่สะดวกและประหยัดพื้นที่ในการรักษาอุปกรณ์ของคุณให้ถูกชาร์จพร้อมกันเสมอได้ โดยมี 5 วิธีช่วยเหลือ (lifehacks) นั้น วิธีช่วยเหลือ #1 ใช้ไม้หรือกล่อง แปลงไม้หรือกล่องเก่าให้เป็นระบบชาร์จไร้สาย ทำต้อง: – ไม้หรือกล่องเก่า (สามารถใช้ได้จากของเก่ามานำมาหรือขอซื้อ) – สายลัดสเปรย์ (มี USB) – ผิวที่ชาร์จไร้สาย (หาได้ที่ร้านขายอิเล็กทรอนิกส์) – ระบบจัดการสาย วางผิวที่ชาร์จไร้สายบนไม้หรือกล่อง เก็บสายลัดสเปรย์ไว้ที่ด้านล่างเพื่อให้กระแสไฟฟ้าถึงแต่ละพื้น วิธีช่วยเหลือ #2 เปลี่ยนเฟรมรูป แปลงเฟรมรูปเก่าให้เป็นระบบชาร์จไร้สายที่มีความหรูหราและใช้งานได้ ทำต้อง: – เฟรมรูปเก่า (สามารถนำมาเปลี่ยนแปลงได้อีกครั้ง) – ผิวที่ชาร์จไร้สาย – สายลัดสเปรย์เล็กๆ (ให้มีไว้ที่ด้านในเฟรม) – ระบบจัดการสาย วางสายลัดสเปรย์ไปที่ด้านในเฟรม พร้อมกับวางผิวที่ชาร์จไร้สายไว้ด้วย ใช้คลิปหรือสายจัดไว้ดึงจึงจะแน่นปลอดภัย วิธีช่วยเหลือ #3 ใช้ไม้และกระดานตัด 3D ออกแบบ และปริ้นต์ป้ายใส่สำหรับวางอุปกรณ์ของคุณไว้ขณะชาร์จไร้สาย ทำต้อง: – ไม้ (สามารถนำมาใช้เป็นกระดาน) – กระดานที่ปิดซ่อน…

ที่นี่มี 5 เทคนิคการปรับปรุงในการทำให้การตั้งค่าเกมของคุณดึงดูดใจมากขึ้นด้วยอิเล็กทรอนิกส์: 1. เพิ่มเสียงบาร์หรือระบบภาพยนตร์ที่บ้าน เสียงที่ดีสามารถเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมได้โดยการให้อำนาจเสียงในพื้นที่ที่เหมาะสม พิจารณาใช้เสียงบาร์หรือระบบภาพยนตร์ที่บ้านที่รองรับ Atmos ของ Dolby หรือ DTS:X เพื่อเสียง 3 มิติ คุณสามารถวางตัวกระจกไว้ในห้องเพื่อให้เกิดการจำลองเสียงรอบตัว ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเกม Lifehack: ถ้าคุณมีงบประมาณที่จำกัด ให้เริ่มต้นด้วยการเพิ่มลำโพงที่เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมหรือคอมพิวเตอร์ผ่านบลูทูธ นี่จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การฟังเสียงแบบมิติ 3 ขึ้นมาโดยไม่ต้องมอบรางวัลเงิน 2. นำอุปกรณ์เกมมอนิเตอร์ที่ดี มันสามารถเพิ่มความสมบูรณ์ของการแสดงภาพของการตั้งค่าเกมของคุณ พิจารณาค้นหาเครื่องมอนิเตอร์ที่มีอัตราการบิดที่สูง (144Hz หรือ 240Hz) ความเร็วในการตอบสนองที่ดี (5ms หรือน้อยกว่านั้น) และการรองรับ HDR (ตัวอย่างเช่น HDR10, Dolby Vision) ความนี้จะทำให้มีการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้น การลบสแปกซ์ลดลง และมีสีที่ชัดเจนขึ้น Lifehack: พิจารณาใช้เครื่องมอนิเตอร์ที่มี USB ที่มีวงจรรวมหรือตัวแยกไฟฟ้า ทำให้คุณเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเกมหรือคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ นี้จะช่วยให้คุณมีที่เก็บที่น้อยลง และทำให้เส้นไฟอยู่ในบันทึกได้เป็นปกติ 3. เพิ่มแสงธรรมชาติ การเพิ่มแสงสามารถสร้างบรรยากาศที่ดึงดูดใจในการตั้งค่าเกมของคุณ พิจารณาใช้ LED, แสงพื้น…

1. สร้างบรรยากาศเสียงผ่อนคลายด้วย Alexa หรือ Google Home ใช้แอสซิสตันชั่นเสียงพูด เช่น Amazon’s Alexa หรือ Google Home เพื่อเล่นเสียงบรรยากาศผ่อนคลาย เช่น ฝนตกหรือน้ำทะเลล้อมรอบในขณะที่ทำงานหรือผ่อนคลาย สามารถใช้คุณสมบัติเสียงขาวของพวกมันหรือเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นที่เป็นไปตามความต้องการได้ วิธีแก้ปัญหา: ใส่ระดับเสียงและตั้งเวลาเพื่อให้เสียงบรรยากาศปรับเปลี่ยนตลอดทุกวันเพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายโดยไม่มีการรบกวน 2. ปรับปรุงพื้นที่ของคุณด้วย Spatial Audio ของลำโพงฉลาด ใช้ลำโพงฉลาด เช่น Sonos หรือ Bose Home Speaker เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ในบ้าน ใช้คุณสมบัติ Spatial Audio เพื่อสวมเสียงธรรมชาติ เช่น สายพันธุ์นกหรือน้ำตก และวางตำแหน่งพวกมันในพื้นที่ภายในห้องโดยใช้การตั้งค่าลำโพงของพวกมัน วิธีแก้ปัญหา: ลองใช้โปรไฟล์เสียงและตั้งค่าต่างๆ เพื่อค้นหาวิธีการที่สมบูรณ์แบบสำหรับพื้นที่ผ่อนคลายของคุณ 3. ผ่อนคลายจิตใจด้วยเสียง ASMR ใช้ลำโพงหรือบาร์สั่นด้านที่รองรับเนื้อหาสำหรับ ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response) เช่น Amazon’s Echo Show…

Here are 5 effective lifehacks ที่ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าจากกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น: 1. ใช้ Surge Protector (SP): วิธีที่ง่ายและเป็นผลที่ดีที่สุดในการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้า Surge protector มีการตั้งคู่มือวงจรในตัวที่ดูดซับกระแสไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นระหว่างการเพิ่มขึ้นของกระแสไฟฟ้า และระบายออกไปไม่มีอันตรายผ่านพื้น เลือก SP ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ – 1250 โจลส์ หรือสูงกว่า – มีหลายช่องเข้า (เพื่อรองรับอุปกรณ์หลายเครื่อง) – แสงไฟบ่งบอกถึงการปกป้องแรงไฟฟ้าที่มากเกินไปและพื้นฐาน 2. ปิดเครื่องในระหว่างพายุ: หากคุณรู้ว่าพายุกำลังจะมาถึง ให้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพื่อป้องกันการเสียหายจากกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น มันอาจดูชัดเจน แต่หลายคนลืมที่จะทำเช่นนี้ ทำให้อุปกรณ์ที่มีค่าของพวกเขาที่เสี่ยง 3. ใช้ Power Conditioner (PC): Power conditioner ไม่เพียงแต่รับประกันการปกป้องแรงไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังดูดซับความรบกวนไฟฟ้า การเปลี่ยนแปลงและกระแสไฟฟ้าที่สูงเกินไปที่สามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าตกโทษได้ ค้นหา PC ที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ – โจลส์ที่สูงกว่า 5-15% จาก SP – มีหลายช่องเข้าและยูเอสบี…

Here are 5 life hacks เพื่อช่วยให้คุณตั้งค่าน้ำมนต์อย่างไม่มีเงื่อนไขสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของคุณ: 1. ใช้ Powerline Adapters เพื่อเชื่อมต่อที่ง่าย Powerline adapters ช่วยให้คุณขยายเครือข่ายของเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่ต้องซื้อคู่สายใหม่ สิ่งเหล่านี้เข้ากับปลั๊กไฟและสร้างการเชื่อมต่อแบบปลอดภัยระหว่างพวกเขา พวกมันเหมาะสำหรับการเชื่อมต่อโทรทัศน์智慧 การคอนโซลเกม หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร Lifehack: ใช้ Powerline adapters หลายชิ้นเพื่อให้เครือข่าย mesh ซึ่งจะทำให้สัญญาณแรงขึ้นทั่วบ้าน 2. แสดงคู่สายของคุณด้วยไก่สี ด้วยการมีคู่สายและอุปกรณ์จำนวนมาก คุณอาจจะปนกัน (จริงๆ!) ใช้ไก่สีที่กำหนดไว้เพื่อลำเล่นแต่ละดวง ทำให้ง่ายต่อการติดตามซึ่งอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตหรือปลั๊กใดๆ สิ่งนี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาเมื่อตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่หรือแก้ไขปัญหาทางการเชื่อมต่อ Lifehack: ใช้ระบบกำหนดลักษณะที่สม่ำเสมอ เช่น สีเงินสำหรับอุปกรณ์ทีวีและแดงสำหรับการคอนโซลเกม 3. กำหนดจุดศูนย์กลางสำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ สร้างจุดศูนย์กลางสำหรับทุกอุปกรณ์ของคุณโดยกำหนดว่าห้องใด (เช่น ห้องนั่งเล่น) เป็นเมืองการบันเทิงหลัก จัดโครงสร้างเครื่องเสียงของเราที่ที่นี่เพื่อให้มีการเข้าถึงง่ายและความจุอุปกรณ์น้อยลง Lifehack: ใช้เครื่องเสริมสัญญาณไร้สายหรือจุดเข้าข้อมูลเพื่อเพิ่มสัญญาณเครือข่ายของคุณทั่วบริเวณห้องศูนย์กลาง เพื่อลดการหย่อนและความเสียหายของการเชื่อมต่อ 4. ให้การเตรียมการที่ง่ายด้วย Smart Plugs Smart plugs ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับมันด้วยโทรศัพท์มือถือหรือผู้ช่วยเสียงของคุณ…

มี 5 วิธีการที่จะช่วยติดตามและควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในบ้าน 1. ใช้ปลั๊กฉุกเฉิน (Smart Plug) เพื่อควบคุมและติดตามอุปกรณ์ – มันทำอะไร: ปลั๊กฉุกเฉินเป็นอุปกรณ์ที่เล็กๆ ที่สามารถนำไปเสียบเข้ากับช่องประจุไฟฟ้าได้ และทำให้คุณสามารถควบคุมและติดตามอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีการเชื่อมต่อกับปลั๊กนี้ได้ – มันทำงานอย่างไร: คุณสามารถปิดเปิดอุปกรณ์ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาการใช้พลังงานได้ และจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับปลั๊กนี้มีปัญหา – ตัวอย่างการใช้งาน: ใช้ปลั๊กฉุกเฉินเพื่อเปิดโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นโดยอัตโนมัติเวลา 6.00 น. ของทุกวัน 2. ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (Security Camera System) ที่มีการตรวจจับเคลื่อนไหว – มันทำอะไร: ระบบกล้องวงจรปิดทำให้คุณสามารถติดตามบ้านของตัวเองได้ และจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหว – มันทำงานอย่างไร: นำกล้องไปวางที่จุดสำคัญๆ ของบ้าน เช่น ที่เข้าออกและหน้าต่าง กล้องจะส่งภาพสดไปยังโทรศัพท์มือถือหรือตารางคอมพิวเตอร์ และจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเคลื่อนไหว – ตัวอย่างการใช้งาน: ได้รับแจ้งเตือนบนโทรศัพท์มือถือทุกครั้งที่มีคนเข้าออกบริเวณบ้าน 3. ติดตั้งระบบติดตามพลังงาน (Energy Monitoring System) – มันทำอะไร: ระบบติดตามพลังงานทำให้คุณสามารถติดตามการใช้พลังงานของบ้านในเวลาจริงได้ –…