มี 5 วิธีช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ:
1. การทำความสะอาดระบบระบายความร้อนของอุปกรณ์
ฝุ่นและความสกปรกสามารถสะสมได้ภายในอุปกรณ์ของคุณ ทำให้อุปกรณ์มีอาการร้อนเกิน ซึ่งทำให้ช้าลง หรืออาจจะปิดเลยก็ได้ เพื่อทำความสะอาดระบบระบายความร้อนของอุปกรณ์:
– ไม่เชื่อมต่ออุปกรณ์และปิดเครื่อง
– ใช้อากาศแรงดันสูงเพื่อกระจายฝุ่นออกจากช่องระบายอากาศ ตัวคลื่นลม และกริลล์
– สำหรับโน้ตบุ๊ก ให้นำแบตเตอรี่ออกแล้วใช้แปรงอ่อนทำความสะอาดตัวคลื่นลมและแผ่นทับทอง
2. การอัปเดตซอฟต์แวร์เฟอร์มแวร์ของอุปกรณ์
ซอฟต์แวร์เฟอร์มแวร์ที่ไม่ปัจจุบันอาจทำให้เกิดปัญหาเชิงปฏิสัมพันธ์ ทำให้อุปกรณ์ช้าลง หรือแม้กระทั่งทำให้เป็นเชื้อเพลิงทิ้งไปเลย เพื่ออัปเดตซอฟต์แวร์เฟอร์มแวร์ของอุปกรณ์:
– ตรวจสอบเว็บไซต์ของผู้ผลิตเพื่อดูว่ามีการอัปเดตใหม่ๆ มั้ย
– ดาวน์โหลดและติดตั้งเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์เฟอร์มแวร์
– ติดตามคำแนะนำในการอัปเดต
3. การใช้กล่องเสียบประแจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการระเบิด
การระเบิดส่งผลให้อุปกรณ์ของคุณเสียหายได้ ทำให้เกิดปัญหาการทำงานไม่ถูกต้องหรือทำให้เป็นเชื้อเพลิงทิ้งไปเลย เพื่อป้องกันอุปกรณ์ของคุณ:
– ใช้กล่องเสียบประแจมีประสิทธิภาพในการป้องกันการระเบิด
– เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับกล่องเสียบประแจ
– กล่องเสียบประแจจะดูดซับความรุนแรงของการระเบิดและป้องกันอุปกรณ์ของคุณ
4. การดูแลแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่มีสุขภาพดีสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของอุปกรณ์ เพิ่มอายุการใช้งาน และลดเวลาการชาร์จ เพื่อดูแลแบตเตอรี่ของคุณ:
– ลองหลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่ของคุณหมดทุกครั้ง ทำให้แบตเตอรี่เกิดความสึกหรอ
– ให้อัปเดตอุปกรณ์ของคุณด้วยซอฟต์แวร์และเฟอร์มแวร์ที่ใหม่ๆ
– ปรับแต่งแบตเตอรี่ของคุณโดยปล่อยให้แบตเตอรี่หมดลงก่อน แล้วชาร์จกลับค่า 100%
5. การตรวจสอบอุณหภูมิของอุปกรณ์
การรักษาอุณหภูมิที่สูงสามารถทำให้อุปกรณ์ของคุณทำงานช้าลง หรืออาจจะเสียหายได้เลย เพื่อดูแลอุณหภูมิของคุณ:
– ใช้อプリเพิ่มเติม เช่น CoreTemp (Windows) หรือ Coconut Battery (Mac) เพื่อติดตามอุณหภูมิ
– ตรวจสอบ CPU และ GPU ที่มีอุณหภูมิสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเล่นเกมหรือใช้งานที่มีความเข้มข้นสูง
– ปรับแต่งการตั้งค่าหรือให้พักผ่อนหากอุณหภูมิของอุปกรณ์ของคุณสูงเกินไป