มี 5 วิธีการช่วยลดการใช้พลังงานจากอิเล็กทรอนิกส์
1. ใช้รางไฟด้วยนาฬิกา: แบ่งจุดเชื่อมไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ผ่านตัวรองไฟ และใช้นาฬิกาหรือแพลกกิ้งฉลาดเพื่อลดการใช้ไฟฟ้ารอการทำงาน (Vampire Power) ซึ่งมีส่วนแบ่งการใช้พลังงานในบ้านสูงถึง 10%
คำแนะนำ: ดูที่รางไฟที่มีหลายช่องและนาฬิกายกไว้ในตัวเพื่อสะดวกในการติดตั้ง
2. ลดการบริโภคแบตเตอรี่: ลดจำนวนแบตเตอรี่ที่ถูกทำลายได้โดย
– ใช้แบตเตอรี่ซ้ำเมื่อเป็นไปได้
– ใช้แบตเตอรี่ที่สามารถใช้ใหม่ได้อีก (nickel-cadmium, nickel-metal hydride หรือ lithium-ion)
– หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่มีการบริโภคแบตเตอรี่อย่างรวดเร็ว
– ติดตามวันหมดอายุของแบตเตอรี่และเปลี่ยนเมื่อใกล้จะหมด
คำแนะนำ: พิจารณาใช้เครื่องตรวจสอบแบตเตอรี่เพื่อกำหนดความสามารถในการใช้งานของแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ใหม่ได้อีก
3. กำจัดอิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสม: ส่งถึงองค์กรการบริจาคหรือทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดวิกฤตอิเล็กทรอนิกส์
– ตรวจสอบกับศูนย์ปัดเศษท้องถิ่นหรือผู้ผลิตสำหรับการรับกลับของอุปกรณ์
– ใช้แหล่งข้อมูลออนไลน์ เช่น iFixit เพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์และทำการตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ
– พิจารณาบริจาคอุปกรณ์ที่ทำงานได้ดีให้กับสถาบันการกุศลหรือขายผ่านแพลตฟอร์มเช่น Gazelle
คำแนะนำ: ตรวจสอบความจำเป็นของการลบข้อมูลส่วนบุคคลออกจากอุปกรณ์เก่าเมื่อต้องทำลายหรือกำจัด
4. ปรับแต่งหน้าจอ: ลดการใช้พลังงานได้ด้วยการตั้งค่าเหล่านี้
– ปรับความสว่างของหน้าจอด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรียนบทความหรือข้ามเว็บ
– ปิดฟังก์ชันการปรับแสงอัตโนมัติและใช้การปรับแสงแบบดั้งเดิมแทน
– ใช้การประหยัดพลังงานของหน้าจอด้วยตนเอง (เช่น “Power Saver” mode)
คำแนะนำ: พิจารณาใช้เครื่องมือป้องกันแสงเบอร์เหลืองหรือซอฟต์แวร์เพื่อลดความเหนื่อยใจของตาเมื่อทำงานบนหน้าจอ
5. เลือกอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ค้นหาและเลือกอิเล็กทรอนิกส์ที่มีคุณสมบัติทางสิ่งแวดล้อม เช่น
– ประเด็นของการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ และออกแบบให้ดีขึ้น
– วัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก (เช่น อะลูมิเนียม, ทองแดง)
– แพ็คเกจที่สามารถย่อยสลายได้
– ออกซีน้ำมันที่ไม่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม
คำแนะนำ: ดูการรับรอง เช่น ENERGY STAR หรือการออกแบบทางสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรปเมื่อเลือกซื้ออุปกรณ์ใหม่
โดยการใช้วิธีเหล่านี้ จะทำให้เราพัฒนาการลดการผลิตขยะอิเล็กทรอนิกส์และรับใช้สิ่งแวดล้อมได้