1. กำหนด “เขตสื่อไม่ใช้งาน” (Tech-Free Zone)
กำหนดพื้นที่เฉพาะในบ้านของคุณ เช่น โต๊ะอาหารหรือห้องรับแขก ให้เป็นเขตสื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดการละเลื่อนและกระตุ้นให้สมาชิกครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ผ่านใบหน้าตรงๆ คุณยังสามารถกำหนดขอบเขตเวลาที่เครื่องสื่อสารถูกอนุญาตในพื้นที่อื่นๆ ของบ้านได้
2. กำหนดเวลาไม่ใช้สื่อ (Screen-Free Times)
นำไปปฏิบัติเวลาไม่ใช้สื่อในแต่ละวัน เช่น:
– ในช่วงอาหาร
– ชั่วโมงก่อนนอน
– ในกิจกรรมหรือเกมของครอบครัว
ใช้เวลาหรือแอปเพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎเหล่านี้ คุณยังสามารถกำหนดวันที่ไม่ใช้สื่อหรือสุดสัปดาห์เพิ่มเติมเพื่อสะสมความผ่อนคลายและเวลาพักผ่อนกับครอบครัว
3. ใช้เครื่องมือควบคุมพ่อแม่และเครื่องมือตรวจสอบ (Parental Controls and Monitoring Tools)
ใช้ซอฟต์แวร์ควบคุมพ่อแม่ เช่น:
– Screen Time (iOS)
– Digital Wellbeing (Android)
– Freedom
– Qustodio
เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและจำกัดเวลาสื่อของลูกของคุณได้ และตั้งค่าขีดจำกัดเนื้อหาด้วย
4. สร้างสัญญา “การใช้สื่อ” (Tech Use Contract)
พัฒนาสัญญาของครอบครัวที่กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับการใช้สื่อ เช่น:
– ขีดจำกัดการใช้สื่อ
– ไม่ใช้สื่อดูอาหารหรืองานฝึกอบรม
– การดำเนินการออนไลน์ที่เคารพ
สัญญานี้ช่วยให้มีการตั้งค่าความคาดหวังที่ชัดเจนและกระตุ้นให้สมาชิกครอบครัวมีความรับผิดชอบ
5. ให้เป็นตัวอย่าง (Lead by Example)
ลูกบ่อยครั้งซ้อมตามพฤติกรรมของพ่อแม่ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งเป็นตัวอย่างในการใช้สื่อที่มีความรับผิดชอบของคุณเอง เช่น:
– ใช้สื่อในปริมาณที่เหมาะสม
– จัดลำดับความสำคัญของการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านใบหน้าโดยตรง
– มีข้อตกลงในการใช้สื่อและการบริโภคสื่อดิจิทัล
โดยการดำเนินการเช่นนี้ คุณจะช่วยสร้างวัฒนธรรมการใช้สื่อที่สมดุลในครอบครัวของคุณ