มี 5 วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บล็อกเชนในคลังสินค้า:
1. ตรวจสอบการค้นหาแหล่งกำเนิด
ใช้บรล็อกเชนทำให้เกิดข้อบันทึกถาวรและไม่สามารถแก้ไขได้ของผลิตภัณฑ์แหล่งกำเนิด การเคลื่อนไหว และเจ้าของตลอดทั้งคลังสินค้า ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้น มีแหล่งกำเนิดจากผู้จัดจำหน่ายที่มีความรับผิดชอบและปฏิบัติตามกฎระเบียบ
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ: ให้นำระบบ blockchain-based ที่ติดตามสินค้าจากวัตถุดิบไปจนถึงลูกค้าปลายทาง ตัวอย่างเช่น Coffee beans สามารถตรวจสอบได้โดยใช้บรล็อกเชน platform เช่น Provenance
2. ลดการปลอมแปลง
ใช้บรล็อกเชนเพื่อสร้างลายเซ็นดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ทำให้ยากต่อการปลอมแปลง
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ: ให้นำระบบ blockchain-based ที่ใช้ serialization และ tracking เพื่อตั้งค่า ID ที่ไม่ซ้ำกันให้กับสินค้าที่ทำโดยโรงงาน ตัวอย่างเช่น บริษัทที่ผลิตยาใช้บรล็อกเชนเพื่อติดตามการบรรจุภัณฑ์และป้องกันการปลอมแปลง
3. ระบบจัดการสต๊อกอัตโนมัติ
ใช้บรล็อกเชนทำให้เกิดข้อบันทึกถาวรของระดับสต๊อกสินค้าตลอดทั้งคลัง ทำให้สามารถปรับปรุงและลดข้อผิดพลาดได้
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ: ให้นำระบบ blockchain-based ที่ติดตามระดับสต๊อกและการเรียกซื้ออัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น บริษัทใช้บรล็อกเชนเพื่อติดตามระดับสินค้าคงคลังในคลังสินค้า และปรับปรุงการขนส่ง
4. ปรับปรุงความเห็นอกเห็นใจของคลัง
ใช้บรล็อกเชนทำให้เกิดข้อบันทึกถาวรที่ครอบคลุมตลอดทั้งคลัง ทำให้สามารถอนุมานและตัดสินใจได้ดีขึ้น
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ: ให้นำระบบ blockchain-based ที่ติดตามการขนส่งและการคาดการณ์ล่วงหน้า ตัวอย่างเช่น บริษัทขนส่งใช้บรล็อกเชนเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกล่องในเวลาพอดี และคาดว่าเหตุผลที่อาจเกิดขึ้นก่อน
5. การรักษาความปลอดภัยในการแบ่งปันข้อมูล
ใช้บรล็อกเชนทำให้สามารถแบ่งปันข้อมูลได้อย่างปลอดภัยระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในคลัง โดยไม่ทำให้เปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
วิธีเพิ่มประสิทธิภาพ: ให้นำระบบ blockchain-based ที่แบ่งปันข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตัวอย่างเช่น บริษัทใช้บรล็อกเชนเพื่อแบ่งปันข้อมูลผลิตภัณฑ์ และความปลอดภัยกับผู้จัดจำหน่ายและหน่วยงานกำกับดูแล
การปฏิบัติเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถปรับปรุงการดำเนินงานของคลังได้ในหลายด้าน:
– ความโปร่งใสและเห็นอกเห็นใจที่เพิ่มขึ้น
– การรักษาความปลอดภัยจากปลอมแปลงและการแก้ไข
– การจัดการสต๊อกและการคาดการณ์ที่ปรับปรุงขึ้น
– การประสานงานและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ดีขึ้น
โดยการนำปฏิบัติเหล่านี้ บริษัทสามารถทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนในคลังของตนเองเต็มศักยภาพได้