1. การแปล
ใช้พลังอุปกรณ์สมาร์ทเพื่อติดตามและควบคุมการใช้อิเล็กทริกที่แต่ละอุปกรณ์ โดยสามารถควบคุมได้จากโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน การตั้งค่าอาจรวมถึง:
– Belkin WeMo
– TP-Link Smart Plug
– Amazon Echo (ด้วยปลั๊กแบบสมาร์ทที่เข้ากันได้)
2. การควบคุมแสงสว่างอัตโนมัติ
ติดตั้งหลอดไฟที่สามารถถูกควบคุมได้จากโทรศัพท์มือถือหรือปรับความสว่างตามเวลาและระดับความสว่างของพื้นที่ ตัวอย่างเช่น:
– Philips Hue
– LIFX
– Belkin Wemo Insight Smart Light Bulb
3. การวางแผนทางพลังงาน
ใช้โทรศัพท์มือถือหรือผู้ช่วยสัมภาษณ์เสียงเพื่อวางแผนงานที่มีการใช้พลังงานสูง เช่น การซักผ้าหรือเครื่องล้างจาน เพิ่มในช่วงเวลาที่ราคาอิเล็กทริกไม่แพง สิ่งนี้สามารถทำได้ด้วย:
– ซิมัลเตอร์สมาร์ทไดรฟ์เช่น Samsung SmartThings
– ผู้ช่วยสัมภาษณ์เสียง เช่น Amazon Alexa หรือ Google Assistant
– อุปกรณ์มือถือ เช่น IFTTT (If This Then That)
4. การควบคุมบ้านอัตโนมัติ
ลงทุนในระบบนาฬิกาปลุกที่ควบคุมได้และติดตามการใช้อิเล็กทริกตามพฤติกรรมของคุณและความชอบ ตัวอย่างเช่น:
– Nest Learning Thermostat
– Ecobee SmartThermostat
อุปกรณ์เหล่านี้มักจะมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น
– การวางแผนการทำงานที่เหมาะสมสำหรับการใช้อิเล็กทริก
– รายงานการใช้พลังงานเพื่อติดตามรูปแบบการใช้งานของคุณ
– การรวมกันเข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทบ้านอื่นๆ เพื่อให้มีการควบคุมที่ง่ายดาย
5. การผสานเข้ากับผู้ช่วยสัมภาษณ์เสียง
ใช้ผู้ช่วยสัมภาษณ์เสียง เช่น Amazon Alexa หรือ Google Assistant เพื่อวางแผนและติดตามการใช้อิเล็กทริกของคุณจากที่ไหนก็ได้ คุณสามารถใช้สั่งการเสียงเพื่อ:
– ปิดไฟ, อุปกรณ์หรือบ้านทั้งหมด
– วางแผนงานที่มีการใช้พลังงานสูง
– รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับรูปแบบการใช้อิเล็กทริกที่ไม่ปกติ
ในการเริ่มต้นกับการปรับปรุงการประหยัดพลังงานของบ้านของคุณ ตรวจสอบว่าคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียรและอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ นำไปใช้เพื่อให้มีการควบคุมแบบเป็นธรรมชาติ