เรียนรู้เทคนิค 5 ประการเพื่อหาเครื่องมือฟรีแลนซ์ที่เหมาะสม
1. ทำรายชื่อของสิ่งที่ต้องมี
ก่อนจะหาความจำเป็นในการใช้เครื่องมือ ให้ทำรายชื่อของสิ่งที่ต้องทำ โดยอาจรวมถึงการบริหารโครงการ การติดตามเวลา การบัญชีการจ่ายเงิน และการสื่อสารกับลูกค้า นำความสำคัญและความเร่งด่วนให้เป็นลำดับความสำคัญ เพื่อให้มุ่งเน้นไปที่หาความเหมาะสมของเครื่องมือเพื่อตอบสนองความจำเป็นเบื้องต้น
2. อ่านรีวิวจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
ไม่ไว้วางใจแค่การขายหรือข้อความทางการตลาดของผู้ให้บริการเครื่องมือ ให้ไปอ่านรีวิวจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น:
– Trustpilot
– G2Crowd
– Capterra
– Reddit (r/freelance และ r/tools)
– ฟอรัมฟรีแลนซ์ (เช่น Nomad List, Remote.co)
3. ตรวจสอบเครื่องมือตามกระบวนการทำงาน
คิดถึงวิธีการทำงานของเราทั้งหมด สิ่งที่ทุกอย่างจะช่วยให้เราปรับปรุงหรือทำให้ง่ายขึ้น ใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการประเมินเครื่องมือและเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับกระบวนการทำงานของเรา ให้คำตัดสินใจอย่างรอบคอบ เช่น หากเราจำเป็นต้องสลับไป-มาหลายครั้งระหว่างโครงการ เลือกเครื่องมือที่มีคุณสมบัติการบริหารโครงการที่เข้มแข็ง
4. พิจารณาเบื้องต้นจากการทดลองและดิสเพลย์
ใช้ประโยชน์จากการทดลองหรือการแสดงความสามารถของเครื่องมือ ก่อนจะลงข้อตกลงใดๆ เพื่อให้เราได้รับความรู้สึกที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเหมาะสมของเครื่องมือและสะดวกต่อการใช้งาน เครื่องมือฟรีแลนซ์ที่มีชื่อเสียงบางส่วนใช้บริการทดลองหรือการแสดงความสามารถ เช่น:
– Trello
– Asana
– Harvest
– FreshBooks
5. มีการเชื่อมโยงเครื่องมือกับระบบอื่นๆ และบริการอื่นๆ
เราต้องใช้หลายเครื่องมือและบริการเพื่อรักษาผลกำไรของเรา พิจารณาความเหมาะสมเครื่องที่สามารถทำงานได้ดีทั้งในระบบที่ใช้อยู่แล้ว เช่น หากเรายังใช้ Google Drive สำหรับการจัดเก็บเอกสาร ให้เลือกเครื่องมือการบริหารโครงการที่เชื่อมโยงกับ Google Drive
ตัวอย่างเครื่องมือที่เชื่อมโยง:
– Trello + Google Drive
– Asana + Slack
– Harvest + PayPal
โดยการปฏิบัติเทคนิคเหล่านี้ เราจะสามารถหาความเหมาะสมของเครื่องมือฟรีแลนซ์ที่ช่วยให้กระบวนการทั้งหมดดำเนินไปอย่างราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพ