การช่วยเหลือ 5 อย่างสำหรับการหาของโทรศัพท์มือถือที่ดีที่สุด
1. การวิจัยและการเปรียบเทียบราคาสินค้า
ก่อนซื้อ คุณควรจะวิจัยและตรวจสอบราคาสินค้าจากผู้ขายต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น:
– เว็บไซต์ของผู้ผลิตโทรศัพท์ (เช่น Apple.com หรือ Samsung.com)
– ร้านค้าของ carrier (เช่น Verizon Wireless หรือ AT&T)
– โซนเสียส่วนลด (เช่น Amazon, Best Buy หรือ Walmart)
– เว็บไซต์ที่เปรียบเทียบราคาสินค้า (เช่น PriceGrabber หรือ NextWorth)
2. ตรวจสอบส่วนลดและโปรโมชัน
เพื่อดูว่ามีส่วนลดหรือโปรโมชันใดๆ ให้กับโทรศัพท์ของคุณ เช่น:
– ส่วนลดจากผู้ผลิต: ผู้ผลิตโทรศัพท์มักจะเสนอส่วนลดพิเศษในช่วงเทศกาล เช่น Black Friday หรือ Cyber Monday
– โปรโมชันของ carrier: Carrier มักจะมีส่วนลดหรือโปรโมชันที่เฉพาะเจาะจง เช่น ส่วนลดการแลกเปลี่ยนโทรศัพท์เก่าหรือแพ็คเกจบริการพิเศษ
– คูปองและรหัสโปรโมชั่นออนไลน์: เว็บไซต์เช่น RetailMeNot หรือ Coupons.com มักจะมีคูปองที่ใช้ได้สำหรับผู้ขายโทรศัพท์
3. แลกเปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณ
แลกเปลี่ยนโทรศัพท์ของคุณเพื่อรับเงินส่วนลดสำหรับการซื้อโทรศัพท์ใหม่:
– แลกเปลี่ยนที่ carrier: Carrier มักจะมีโปรแกรมตัวแทนแลกเปลี่ยนโทรศัพท์ที่ให้คะแนนเครดิตในการซื้อโทรศัพท์ใหม่
– แลกเปลี่ยนที่ผู้ผลิต: ผู้ผลิตโทรศัพท์บางตัว เช่น Apple มีโปรแกรมตัวแทนแลกเปลี่ยนโทรศัพท์ที่สามารถให้ส่วนลดได้ถึง $300 สำหรับ iPhone
– เว็บไซต์แลกเปลี่ยนออนไลน์: เว็บไซต์เช่น Gazelle, Decluttr หรือ NextWorth ให้คุณขายโทรศัพท์ของคุณและรับการชำระเงิน
4. ดูทั้งเครื่องใหม่และเครื่องมือ
เครื่องมือที่ใช้ซ้ำหรือเครื่องที่ใช้ได้ สามารถถูกกว่าเครื่องใหม่ได้:
– เครื่องยนต์ที่ยืนยันผู้ผลิต: ผู้ผลิตโทรศัพท์บางตัว เช่น Apple มีร้านค้าออนไลน์ที่ขายเครื่องมือที่ใช้ซ้ำ
– เครื่องที่ได้รับการอนุมัติจาก carrier
– โซนเสียส่วนลด เช่น eBay, Craigslist หรือ Facebook Marketplace (อย่าซื้อจากผู้ขายรายใดรายหนึ่งโดยไม่ระวัง)
5. รอให้เทศกาลชำระบัญชีสินค้า
ในบางรัฐ มีการจัดเทศกาลชำระบัญชีสินค้า โดยที่คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเสียภาษีของรัฐและท้องถิ่นได้
– วิจัยวันที่เทศกาลชำระบัญชีสินค้าในพื้นที่ของคุณ
– พักการซื้อโทรศัพท์จนกระทั่งเทศกาลชำระบัญชีสินค้า